1) วิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด

• ประเมินแผนการตลาด
  ตรวจสอบช่องทางการตลาดที่ใช้อยู่ เช่น โฆษณาบนเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ สื่อสังคมออนไลน์ และโฆษณาทางสื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อดูว่าช่องทางใดให้ผลตอบแทนดีที่สุดและควรเน้นที่ใดมากขึ้น
  

• การสร้างเว็บไซต์ที่น่าสนใจ
  มีข้อมูลครบถ้วน รูปภาพและวิดีโอที่ดึงดูด พร้อมระบบจองออนไลน์
  

• การทำ SEO (Search Engine Optimization)
  เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงในผลการค้นหา และโปรโมตโครงการผ่านช่องทาง Social Media เช่น Facebook, Instagram, YouTube โดยการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและการโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (PPC)
  

• การออกแบบที่ตอบโจทย์
  พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เช่น บ้านที่มีเทคโนโลยีสมาร์ทโฮม การจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  

• การตั้งราคาที่เหมาะสม
  ใช้บริการประเมินราคาจากผู้เชี่ยวชาญหรือดูข้อมูลจากการขายบ้านในพื้นที่เดียวกันเพื่อให้ได้ราคาที่สมเหตุสมผล หากบ้านขายไม่ออกในระยะเวลานาน ควรพิจารณาปรับลดราคาลงเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาดและดึงดูดผู้ซื้อมากขึ้น
  

 2) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย

• การมอบโปรโมชันและส่วนลด
  จัดแคมเปญโปรโมชันพิเศษเพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้ซื้อ เช่น ส่วนลดพิเศษ การผ่อนชำระดอกเบี้ย 0% ในระยะเวลาที่กำหนด
  

• เสนอข้อเสนอพิเศษ
  เช่น การลดราคาชั่วคราว การให้ของแถมที่มีมูลค่าหรือบริการเสริม เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า การจัดสวนฟรีหรือการตกแต่งภายในฟรี
  

• การจัดงานเปิดบ้านตัวอย่าง (Open House)
  เปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้ามาชมโครงการจริงและสัมผัสประสบการณ์ โดยการเตรียมบ้านให้สะอาดและเป็นระเบียบ พร้อมกับการให้ข้อมูลและตอบคำถามของผู้เข้าชมอย่างเต็มใจ และโปรโมทกิจกรรม Open House ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สื่อสังคมออนไลน์ เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ ป้ายประกาศในพื้นที่ และการส่งอีเมลเชิญชวน
  

3) ใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มออนไลน์

• การใช้สื่อสังคมออนไลน์
  ใช้แพลตฟอร์มเช่น Facebook, Instagram, และ Twitter ในการโพสต์ภาพและวิดีโอของบ้าน รวมถึงการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและมีประโยชน์เกี่ยวกับการอยู่อาศัย
  

• การใช้เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์
  ลงประกาศในเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง เช่น DDproperty, Baania หรือ Nayoo พร้อมกับข้อมูลรายละเอียดของบ้านอย่างครบถ้วน
  

• การใช้เทคโนโลยี VR/AR
  สร้างทัวร์เสมือนจริง (Virtual Tour) ให้ผู้สนใจสามารถดูบ้านได้ผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถเห็นบ้านในทุกมุมมองได้โดยไม่ต้องมาเยี่ยมชมสถานที่จริง
  

• การใช้ระบบ CRM
  ใช้ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management - CRM) เพื่อจัดการข้อมูลลูกค้าและติดตามการขาย
  

Mango Anywhere โปรแกรมเพื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ครบวงจรด้วยระบบ CRM บริหารงานขายและวางแผนการตลาดอย่างมืออาชีพ ด้วยระบบการประมวลผล แบบ Big Data ระบบเก็บข้อมูล ติดตามลูกค้า ตรวจสอบสถานะการขาย เรียกดูรายงานได้อย่าง Real Time ผ่านอุปกรณ์ เทคโนโลยีที่ทันสมัย


4) การปรับปรุงการสื่อสารและการตอบกลับ

• ตอบกลับคำถามและความสนใจของผู้ซื้ออย่างรวดเร็ว
  โดยการใช้ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย หรือใช้ Bot ให้เข้ามาช่วยตอบแชทได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  

• ทำการติดตามผลผู้ที่เคยเข้าชมบ้านหรือแสดงความสนใจ
  โดยการส่งอีเมลติดตามหรือโทรสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสนใจและข้อกังวลของพวกเขา
  

5) การร่วมมือกับพันธมิตร

• การร่วมมือกับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์
  เพิ่มโอกาสในการขายโดยการร่วมมือกับนายหน้าที่มีเครือข่ายกว้างขวาง
  

• การร่วมมือกับบริษัทสินเชื่อ
  เสนอสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษผ่านการร่วมมือกับธนาคารหรือบริษัทสินเชื่อ